ในทุกๆ ประเทศผู้คนจำนวนไม่น้อยล้วนมีศาสนานับถือ เพื่อเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ ซึ่งบางศาสนาแค่เห็นชุดที่สวมใส่ก็พอจะเดาออกได้ว่าผู้คนเมืองนั้นนับถือศาสนาอะไรแล้ว และหากพูดถึง “เตหะราน” เมืองหลวงของประเทศอิหร่านล่ะ พอจะเดาออกได้หรือไม่ว่าว่าประชาชนในเมืองหลวงแห่งนี้ นับถือศาสนาอะไร?
การนับถือศาสนาของประชาชนในเตหะราน
“เตหะราน” ในภาษาเปอร์เซียแปลได้ว่าอ้อมกอดที่แสนอบอุ่น แน่นอนว่าเป็นเช่นนั้นจริงๆ เพราะหากใครได้ลองเข้าไปสัมผัสในเมืองเตหะรานจะเห็นผู้คนมากมายเดินขวักไขว่ พูดจาเป็นกันเอง ถ้อยทีถ้อยอาศัย ซึ่งพอลองสังเกตการแต่งกายโดยเฉพาะผู้หญิงจะพบอีกว่านุ่งเสื้อผ้ามิดชิด มีผ้าคลุมฮิญาบปกปิดด้วย บางครอบครัวที่เคร่งครัดมากๆ ก็จะมีการสวมชุดคลุมดำปกปิดไปหมดทั้งตัว อธิบายการแต่งกายมาขนาดนี้พอจะเดากันได้หรือยังว่าประชาชนในเตหะรานนับถือศาสนาอะไร? บอกให้ก็ได้ ว่าประชาชนเตหะรานที่มีมากถึง 15ล้านคน ส่วนใหญ่นั้นนับถือศาสนาอิสลาม อยู่ในนิกายชีอะห์ ซึ่งถือเป็นประเทศมุสลิมที่เคร่งครัดมาก ดังนั้นจึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเวลาเดินไปแห่งหนไหนในเมืองเตหะรานจึงพบว่าผู้หญิงถึงแต่งตัวปกปิดมิดชิดแทบทั้งร่างกาย เห็นเพียงตา 2 ข้างเท่านั้น

เมืองหลวงเตหะรานจัดว่าเป็นเมืองที่น่าสนใจไม่เบา นอกจากผู้คนที่เป็นมิตร การแต่งกายที่ดูจะเคร่งครัดตามศาสนาแล้ว สถานที่ต่างๆ ก็เยี่ยมยอด น่าไปเยือนไปเป็นที่สุด ไม่ว่าจะ หอคอยมิลาด ซึ่งเป็นหอคอยที่สูงมากชนิดที่ถูกจัดอยู่ใน 10 หอคอยที่สูงที่สุดของโลก หากได้ลองขึ้นไปแล้วต้องร้องว้าว เพราะสามารถมองเห็นเมืองเตหะรานทั้งเมือง 360 องศา ยิ่งใหญ่ตระกานตามาก อีกหอคอยที่น่าไปเยือนด้วยก็คือหอคอยอาซาดี เป็นหอคอยที่ตั้งอยู่กลางวงเวียนใหญ่ รอบๆ มีความสวยงาม อย่าง น้ำพุที่ตั้งอยู่ด้านหน้า สวนสาธารณะกลางเมือง Park-e Shahr ไม่อาจไม่สวยที่สุดแต่ทำให้เห็นการใช้ชีวิตของคนเมืองเตหะรานมากที่สุด โดยหอคอยแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในปี 1971 เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งการปฏิวัติมุสลิมและเป็นการฉลองอาณาจักรเปอร์เซียที่ครบรอบยาวนาน 2,500 ปี
เตหะรานยังมีพระราชวังที่สำคัญๆ มากมาย ทั้ง พระราชวังโกเลสตาน หรืออีกชื่อว่าพระราชวังสวนกุหลาบ ที่ได้ชื่อนี้เพราะในพระราชวังมีการปลูกดอกไม้สีสันสดใสขนาดใหญ่นั่นเอง ทั้งยังถูกตกแต่งภายในไว้อย่างสวยงาม ได้แก่ ศิลปะแบบเปอร์เซีย ปัจจุบันได้ขึ้นทะเบียนพระราชวังเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมกับองค์การยูเนสโกอีกด้วย ทั้งบางส่วนในพระราชวังก็ยังเปิดให้เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ผู้คนสามารถเข้าเยี่ยมชมได้ อีกพระราชวังที่สวยงามมีผู้คนมาเยี่ยมชมไม่ขาดสายก็คือ พระราชวังซาดาบัด มีความร่มรื่นและรายล้อมด้วยพระราชวังขนาดเล็ก
หรือถ้าใครสนใจงานศิลปะร่วมสมัยก็ไปเยี่ยมเยือนที่สวนสาธารณะ Park-e Laleh ได้ เต็มไปด้วยผลงานศิลปะของศิลปินเก่าแก่ อย่าง ปาโบล ปิกัสโซ, อ็องรี มาติส และฟาน ก็อกฮ์ รวมถึงศิลปินรุ่นใหม่ของอิหร่านด้วย หรือถ้าชมพิพิธภัณฑ์แห่งนี้แล้วยังไม่ถูกใจไปต่อกันที่ พิพิธภัณฑ์แห่งชาติอิหร่านได้เลยนะ เพราะมีการเก็บรวบรวมวัตถุโบราณ รูปปั้นคนสำคัญ เครื่องมือเครื่องใช้ กว่า 3 แสนชิ้น อายุบางชิ้นก็มากถึง 4,000 ปี บางชิ้นเป็นสมบัติของโลกไม่สามารถประเมินค่าใดได้ หรือถ้าใครเบื่อพิพิธภัณฑ์แล้ว แต่อยากสัมผัสการใช้ชีวิตของชาวมุสลิม หรือผู้ที่นับถือศาสนาอิสลาม นิกายชีอะห์ และอยากลองชิมอาหารพื้นเมือง เลือกซื้อของฝากแปลกๆ ไปกันได้ที่ตลาดนัด Jomeh ซึ่งตั้งอยู่บนถนน Joumbouri Avenue
เมืองหลวงเตหะราน ประเทศอิหร่านถือว่าน่าสนใจไปท่องเที่ยว พบปะผู้คนไม่น้อย เพราะผู้คนที่นี่แม้ว่าจะแต่งกายมิดชิด แต่ก็สัมผัสได้ถึงความจริงใจ มีน้ำใจ เป็นมิตร ลบภาพประเทศอันแสนน่ากลัวไปได้เลยล่ะ